😨 ภาวะผู้แอบอ้าง
เคยรู้สึกแบบนี้ไหม ทั้งที่ประสบความสำเร็จมาไม่น้อย แต่กลับไม่รู้สึกภูมิใจเลย? เหมือนเสียงในหัวคอยบอกว่า “เรายังไม่เก่งพอ”, “สิ่งที่ได้มาก็แค่ฟลุค”, “อีกไม่นานคนอื่นต้องรู้แน่ว่าเราไม่เก่งจริง”
ถ้าคุณเคยคิดแบบนี้ คุณอาจกำลังเจอกับสิ่งที่เรียกว่า “Imposter Syndrome” ความรู้สึกที่มองตัวเองในแง่ลบจนทำให้ไม่เห็นคุณค่าของสิ่งที่ทำได้ดีอยู่แล้ว และบางครั้ง มันก็ส่งผลต่อทั้งการทำงาน การเรียน และชีวิตประจำวันโดยไม่รู้ตัว
💡 Imposter Syndrome คืออะไร?
Imposter Syndrome หรือ ภาวะผู้แอบอ้าง คือภาวะทางจิตใจที่ทำให้คนรู้สึกไม่มั่นใจในความสามารถของตนเอง แม้จะมีผลงานและความสำเร็จให้เห็นชัดเจนก็ตาม หลายคนกลัวว่าจะถูก “จับได้” ว่าตัวเองไม่เก่งจริง ทั้งที่ไม่มีใครคิดแบบนั้นเลย
นักวิจัยชื่อ ดร. วาเลอรี ยัง (Dr. Valerie Young) ได้แบ่งภาวะนี้ออกเป็น 5 แบบหลัก ๆ ได้แก่:
- นักสมบูรณ์แบบ (The Perfectionist): คิดว่าทุกอย่างต้องเป๊ะ 100% ถ้าไม่สมบูรณ์แบบคือยังไม่พอ
- ผู้เชี่ยวชาญ (The Expert): รู้สึกว่าตัวเองยังรู้น้อยเกินไป ไม่กล้าแสดงออกจนกว่าจะรู้ทุกเรื่อง
- อัจฉริยะโดยธรรมชาติ (The Natural Genius): ถ้าเรียนรู้ช้ากว่าคนอื่นจะรู้สึกว่าตัวเองไม่ฉลาดพอ
- นักทำงานเดี่ยว (The Soloist): รู้สึกว่าต้องทำทุกอย่างเอง ถ้าขอความช่วยเหลือคือ “อ่อนแอ”
- ซูเปอร์ฮีโร่ (The Superperson): พยายามทำทุกอย่างให้ดี ทั้งงาน ครอบครัว และชีวิตส่วนตัว จนเหนื่อยหมดแรง
จริง ๆ แล้ว ภาวะนี้เกิดได้กับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นนักศึกษา คนทำงานมือใหม่ มืออาชีพ ไปจนถึงคนที่ประสบความสำเร็จระดับโลก
หลายคนมักคิดว่าความสำเร็จของตัวเองมาจาก “โชคดี” หรือ “จังหวะเวลา” มากกว่าจะยอมรับว่ามาจากความสามารถจริง ๆ ของตัวเอง
ตอนนี้เมื่อฉันอายุเยอะขึ้น ฉันไม่ค่อยกังวลกับความคิดของคนอื่นเท่าเดิม แต่ฉันยังจำได้ดีเลยว่าตอนเริ่มต้นทำงานใหม่ๆ การขอความช่วยเหลือมันยากแค่ไหน และถ้าในตอนนั้นมีใครสักคนให้หันไปพึ่งได้ โดยไม่ต้องกลัวว่าจะถูกตัดสิน …ฉันคงจะผ่านวันพวกนั้นไปได้ง่ายกว่านี้มาก
🛠️ วิธีรับมือกับ Imposter Syndrome
- เก็บบันทึกความสำเร็จของตัวเอง เขียนไว้หรือถ่ายรูปเก็บไว้ เพื่อเตือนตัวเองว่า “เราเคยทำได้ดีขนาดนี้มาแล้วนะ”
- พูดคุยกับเพื่อนหรือที่ปรึกษา เปิดใจเล่าความรู้สึกออกมา การได้พูดอาจช่วยให้เห็นมุมใหม่ ๆ
- ฉลองชัยชนะเล็ก ๆ ลองทำ Happiness Jar ใส่กระดาษโน้ตเล็ก ๆ ทุกครั้งที่มีเรื่องดี ๆ เกิดขึ้น ฉันเก็บทุกอย่างลงไป สติกเกอร์ ตั๋ว ริบบิ้น เข็มกลัด เหรียญ หรือแม้แต่ความทรงจำเล็ก ๆ ที่ทำให้ยิ้มได้
- จำไว้: คุณไม่ได้อยู่คนเดียว! มีคนกว่า 70% ทั่วโลก ที่เคยรู้สึกแบบเดียวกับคุณ